ก่อนที่เราจะเริ่มทำการทาสีทับผนังปูนเก่าต้องทำการตวรจสอบคุณภาพผนังปูนเสียก่อน ว่ามีการทาสีทับลงปูนลงไปหรือยัง หากว่ายัง ต้องตรวจสอบคุณภาพผนังว่ายังใช้การได้ดีหรือไม่ หากผนังปูนร้าวหรือ มีรอบแตกหักควรจะทุบทิ้งก่อนทำการก่อผนังปูนใหม่เพื่อที่จะให้ใช้งานได้นาน จะได้ไม่เสียเวลาทาสีทับ เพราะอาจจะใช้งานได้ไม่นานและ ต้องเสียค่าก่อผนังใหม่และ ค่าสีอีกรอบนึง ดังนั้นเสียเวลาตรวจสอบก่อนที่จะสิ้นเปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์ หลังจากตรวจสภาพผนังแล้ว
เราควรจะตรวจอีกอย่างคือ การทาสีทับผนังปูนเก่านั้นเราจำเป็นจะต้องตรวจสอบคุณภาพสีเก่าที่ติดบนกำแพงว่ายังยึดเกาะแน่นสนิทกับกำแพงหรือไม่
หากมีรอยแตก หลุดร่อน แตกหัก แนะนำให้ลอกสีเก่าออกให้หมดก่อนทำการทาสีใหม่
เพราะสีเก่าเสื่อมสภาพย่อมทำให้หลดุลอก ร่อน
ทำให้สีใหม่ที่ทาทับไปหลุดไปด้วยทำให้สิ้นเปลืองโยใช่เหตุ ดังนั้นต้องตรวจเช็คคุณภาพสีเก่าให้ดี
หากทาเกิน 5ปีขึ้นไปให้เช็ค คุณภาพสียังดูสดใหม่หรือไม่ หรือดูแห้งแตก
-สำหรับในกรณีที่สีเก่ายังดีอยู่ต้องการทาสีทับ
อย่าใช้สีธรรมดาทั่วไปทาทับเพราะจะยึดเกาะไม่ดี
ถ้าจะใช้สีธรรมดาทาทับให้ลอกสีเก่าออกก่อนจะดีกว่า
-สำหรับการทาทับสีเก่าขอแนะนำให้ใช้คัลเลอร์ซีเมนต์ของจระเข้
เพราะเป็น ซีเมนต์สีที่ออกแบบมาสำหรับการทาทับสีเก่าโดยเฉพาะ
ช่วยให้ยึดเกาะได้แน่นสนิทเป็นเนื้อเดียวกันแถมยังมีสีให้เลือกหลายสีสัน เหมาะสำหรับการทาทับสีเก่าไม่ต้องเสียเวลารื้อสีเก่าออก
ทาทับสีเก่าได้ทันทียึดเกาะบนสีเก่าได้ดีเหมือนยึดติดบนผนังปูนเปล่า ราคาก็ไม่แพง
เหมาะสำหรับคนยุคใหม่
สำหรับการเลือกสีที่ใช้ทาทับผนังของแนะนำให้เลือกให้ถูกชนิดการใช้งาน
หากเราขุดสีเก่าออกแล้วไม่จำเป็นจะต้องใช้สีทาทับในการทาสีก็ได้แต่สามารถเลือกใช้สีธรรมดาทั่วไปได้
เพราะสีธรรมดาน่าจะมีราคาถูกกว่าสีสำหรับทาทับสีเก่านั้น
สำหรับกรณีที่ทาทับผนังอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปูน
ก็อาจจะต้องดูชนิดของวัสดุที่จะทาหากเป็นผนังไม้อาจจะต้องทายากันปลวก
กันมอดเพื่อไม่ให้มีปัญหาถายหลัง หลังจากนั้นจึงค่อยทาสีทับ
โดยที่ใช้สีสำหรับทาบนไม้ หากเป็นผนังที่ใช้วัสดุอื่นๆ
ก็ควรศึกษาให้ดีว่าก่อนทาสีต้องทารองพื้นหรือ
ทาอะไรก่อนที่จะทาสีเพื่อที่จะสามารถใช้งานได้นานมีประสิทธิภาพนั้นเอง